สู้กับสิวที่หลัง
สิวที่หลัง เกิดจากแบคทีเรียและความมันของผิวจนเกิดการอุดตันเหมือนสิวบนใบหน้า หากเป็นในส่วนของสิวตามร่างกายนั้น มักจะเกิดได้หลายสาเหตุ โดยสาเหตุจะมาจากต่อมน้ำมันภายใต้รูขุมขน เรียกว่าซีบัม ผลิตออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้น แต่หากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน จะทำให้เกิดสิวที่หลัง มีอาการแดง บวมหรือเป็นหนอง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
- ความเครียด นอนน้อย
- ช่วงฮอร์โมนเปลี่ยน เช่น มีประจำเดือน ช่วงวัยรุ่น
- ผลข้างเคียงจากการกินยาบางชนิด
- รับประทานอาหารไขมันสูง รสหวานจัดบ่อย ๆ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายเหงื่อ จนอับชื้นหมักหมม
- พันธุกรรมและการแพ้สกินแคร์บางชนิด
อาการสิวที่หลัง
มีสิวขึ้นบริเวณหัวไหล่ หลัง และบริเวณลำตัว ซึ่งอาจรู้สึกเจ็บและสิวอาจขึ้นเป็นกระจุก ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง และอาจมีสิวเพียงชนิดเดียวหรือหลายประเภท
ชนิดของสิวที่หลัง
- สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว
- สิวหัวดำ
- สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules)
- สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule)
- สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules)
- สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง
ควรพบแพทย์เมื่อไร
- เมื่อเป็นสิวเรื้อรัง ไม่หาย หรือกลับมาเป็นซ้ำ
- กดเจ็บ
- สิวอักเสบ
- มีไข้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของอาการติดเชื้อ
วิธีรักษาสิวที่หลัง
1. รักษาด้วยใช้ยาทา สิวที่หลัง
ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว โดยจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ลดสิวอุดตันและลดการอักเสบ สามารถใช้ร่วมกับการรักษาสิวทุกระยะ และใช้ทาป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ด้วย มีผลข้างเคียงทำให้ผิวลอก คัน แดง
Benzoyl peroxide เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่หลัง ซึ่งช่วยลดแบคทีเรียบนผิวหนังและลดการอักเสบของสิว โดยปกติแล้ว ส่วนผสมของยานี้จะมีค่าเป็นออกซิเดชั่นต่ำทำให้เป็นยาที่สามารถซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ดี แต่สำหรับผิวที่แพ้ง่าย ควรทดลองใช้เป็นเวลาสั้นๆ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงได้แก่ ผิวแห้ง ผิวแตก ในกรณีที่ใช้ยาแล้วเกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ผิว ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำในการรักษา
2. ฉีดยา รักษาสิวที่หลัง
การฉีดยารักษาสิวที่หลังเป็นวิธีการรักษาสิวที่อุดตันและมีขนาดใหญ่ ยาที่ใช้ฉีดรักษาสิวที่หลัง จะเป็นยาที่มีความเข้มข้นสูง ส่วนใหญ่จะเป็นสารที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและลดการอุดตันของเม็ดสิว แต่มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เช่น การแพ้ยาหรือการอักเสบ การฉีดยารักษาสิวที่หลังจะต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินความเหมาะสมและคำแนะนำวิธีการรักษา
3. เลเซอร์ รักษาสิวที่หลัง
การทำเลเซอร์ รักษาสิวอุดตัน เป็นวิธีการรักษาสิวที่เห็นผลไว และสามารถแก้ปัญหาสิวอุดตันได้ดี โดยการเลเซอร์สิวอุดตันจะทำคล้ายใช้เข็มเจาะแต่ใช้พลังงานแสงในการเจาะแทน โดยเฉพาะจุดที่เป็นสิวอุดตัน แต่อาจมีผลทำให้ผิวบางลง และไวต่อแสง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด
4. การฉีดเมโสที่หลัง (Mesotheraphy)
การฉีดเมโสที่หลังเป็นกระบวนการที่ใช้สารสกัดจากพืชและวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวหนังผ่านทางการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดผด ผื่น ลดการทำงานของต่อมไขมัน และทำให้ผิวหนังดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการฉีดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีดและสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้าก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสที่หลังหรือวิตามินผิว
วิธีป้องกันสิวที่หลัง
1.รักษาสิวที่หลังด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร ไม่รับประทานที่มีไขมันสูง หรือหวานจัด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ รวมถึงโลชั่นบำรุงผิวที่อ่อนโยน
2. หากมีการออกกำลังกายหรือมีเหงื่อไคล หลังจากออกกำลังกายควรรีบอาบน้ำ เพื่อลดการหมักหมมของแบคทีเรีย และเลือกใช้เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื่นจากเหงื่อในระหว่างวัน และลดสาเหตุของสิวที่หลัง
3. การเลือกใช้โทนเนอร์เช็ดหลังอาบน้ำ โดยนำสำลีเช็ดบริเวณที่เป็นสิวที่หลัง และใช้ยารักษาสิวที่หลังชนิดทา โดยแต้มในบริเวณหัวสิวอย่างสม่ำเสมอ
4. การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวที่หลัง เช่น แป้งน้ำ ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยและใช้ได้ต่อเนื่องเพื่อให้สิวที่หลังแห้งและหลุดไปเอง