ยาแก้อักเสบไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ (NSAIDs are not Antibiotics)
ยาแก้อักเสบ (Anti-inflammatory drugs) ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) และใช้แทนกันไม่ได้ ยาแก้อักเสบ ช่วยลดอาการปวด บวม แดง ร้อน และลดไข้จากการอักเสบที่เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การติดเชื้อ เช่น การบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ส่วนยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ในการฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ
กลุ่มยาต้านการอักเสบ (NSAIDs)
คือ กลุ่มยาที่ช่วยแก้อาการปวด บวม แดง ร้อน และลดการอักเสบโดยตรงของร่างกาย รวมทั้งยังมีฤทธิ์ในการลดไข้ ซึ่งใช้รักษาการอักเสบที่เกิดจากการบาดเจ็บเพราะการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การใช้เสียง ข้ออักเสบจากโรครูมาตอยด์ เช่น Ibuprofen, Naproxen, Diclofenac, Etoricoxib, Celecoxib
ยากลุ่มนี้กำหนดให้รับประทานหลังอาหารทันที เนื่องจากมีผลระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค แต่ช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบ เช่น ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เส้นเอ็นอักเสบ และกล้ามเนื้ออักเสบ
ยาฆ่าเชื้อ หรือกลุ่มยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
คือ กลุ่มยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส ไม่มีฤทธิ์แก้ปวดหรือลดการอักเสบ เช่น Penicillin, Amoxicillin, Azithromycin ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ยากลุ่มนี้หลายคนเข้าใจผิดเรียกว่ายาแก้อักเสบ ทำให้มีการใช้อย่างไม่เหมาะสม เช่น ใช้ยาฆ่าเชื้อในการรักษาไข้หวัด (Common Cold) ซึ่งไม่จำเป็นต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อ ทำให้เสี่ยงต่อการแพ้ยา และเพิ่มโอกาสต่อการดื้อยาอีกด้วย
อันตรายจากการใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ
1. เกิดการแพ้ยา ซึ่งหากแพ้ไม่มากอาจมีแค่ผื่นคัน ถ้ารุนแรงขึ้นผิวหนังจะเป็นรอยไหม้ หลุดลอก หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต
2. เกิดเชื้อดื้อยา การกินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อกระตุ้นให้เชื้อแบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยา ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาปฏิชีวนะที่ใหม่ขึ้น แพงขึ้น
3. เกิดโรคแทรกซ้อน ยาปฏิชีวนะจะฆ่าทั้งแบคทีเรียก่อโรค และแบคทีเรียชนิดดีมีประโยชน์ในลำไส้ เมื่อแบคทีเรียชนิดดีตายไป เชื้ออื่น ๆ จึงฉวยโอกาสเติบโตมากขึ้น ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง โดยผนังลำไส้ถูกทำลายหลุดลอกมากับอุจจาระ ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
ข้อควรระวังในการใช้ยา
· ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
· หลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าเชื้อหากไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อ
· ใช้ยาแก้อักเสบตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง